ภาพรวมด้านความยั่งยืน

การดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม คำนึงผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า เป็นแนวทางการดำเนินงานของ บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ที่ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด เพื่อสร้างสมดุลระหว่างมูลค่าทางธุรกิจและคุณค่าต่อผู้มีส่วนได้เสีย ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมในการผลิตวัตถุดิบสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก บริษัทตระหนักและให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) และเพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมให้ดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2565 บริษัทจึงได้ประกาศนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ของบริษัทในระดับหน่วยงาน โดยมีคณะทำงานทั้งหมด 7 ด้าน ได้แก่ ด้านการกำกับดูแลองค์กร สิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม การดำเนินงานอย่างเป็นธรรม ผู้บริโภค การมีส่วนร่วม และการพัฒนาชุมชน เพื่อดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านต่างๆ ที่เกิดจากการประกอบกิจการ

บริษัทมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในการผลิตวัตถุดิบสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารในระดับสากล ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของโลกในบริบทใหม่ โดยกำหนดกรอบการดำเนินงาน ให้ความสำคัญในประเด็นที่สอดคล้องกับทิศทาง ESG ของโลกโดยมีตัวอย่างการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมใน 3 ด้าน ดังนี้

ในด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทให้ความสำคัญการบริหารจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการพลังงาน การจัดการน้ำและของเสีย โดยในปี 2565 ได้รับการรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรทั้ง 3 Scope เพื่อเป็นปริมาณอ้างอิงในการศึกษาแนวทางเพื่อบรรลุเป้าหมายสู่ Carbon neutral Company ภายในปี 2570 อีกทั้งยังเข้าร่วมโครงการ Care the Bare ของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกจากการจัดกิจกรรมต่างๆ ในส่วนของการบริหารจัดการด้านพลังงานมีการใช้พลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ โดยติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อนำไฟฟ้าไปใช้ภายในบริษัท และในปีนี้บริษัทได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 2 ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งแสดงถึงธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ยึดมั่นในการประกอบกิจการ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สำหรับด้านสังคม นอกเหนือจากการให้ความสำคัญกับชุมชน บริษัทมุ่งเน้นเรื่องการจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยและการพัฒนาศักยภาพของพนักงานอย่างเป็นระบบ การดำเนินโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ ทั้งในด้านการส่งเสริมการศึกษาการช่วยเหลือสังคม ชุมชน รวมถึงพนักงาน ในภาวะวิกฤตและในยามเกิดภัยพิบัติ โดยได้มอบถุงยังชีพให้พนักงานที่ประสบภัยน้ำท่วมให้แก่พนักงานที่ประสบภัยจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคตะวันออก เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา และได้สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่จะช่วยให้เยาวชน มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี นอกจากนี้ได้ เข้าร่วมโครงการสื่อความรู้สู่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ดำเนินการโดยมูลนิธิหมอชาวบ้าน เพื่อเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชนได้จัดส่งนิตยสารหมอชาวบ้านให้กับ รพ.สต. จำนวน 200 แห่งทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี อีกทั้งยังได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน อย่างยั่งยืน (CSR-DIW For Beginner) ประจำปี 2565 ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อการอยู่ร่วมกันระหว่างโรงงานและชุมชนโดยรอบได้อย่างเกื้อกูลและยั่งยืน

นอกจากนี้ในด้านการกำกับดูแลกิจการ บริษัทมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการ ด้วยจริยธรรมทางธุรกิจ และตั้งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต่อต้านการคอร์รัปชัน พร้อมทั้งสร้างความเชื่อถือและความไว้วางใจระหว่างผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน โดยในปี 2565 บริษัทได้รับผลการประเมินโครงการสำรวจการกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (CGR) ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มีคะแนนบรรษัทภิบาลระดับ “ดีเลิศ - 5 ดาว” ซึ่งบริษัทได้ประกาศเจตนารมณ์เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย เข้าร่วมโครงการ Thai Private Sector Collective Action Against Corruption (CAC) และยังให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลและระบบสารสนเทศให้ปลอดภัย การบริหารธุรกิจให้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน พัฒนานโยบายการจัดซื้อ จรรยาบรรณคู่ธุรกิจ ธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ และแนวทางในการคัดเลือกคู่ค้าของบริษัท รวมถึงมีการสื่อสารหลักปฏิบัติให้คู่ค้ารับทราบหลักปฏิบัติอย่างยั่งยืนสำหรับคู่ค้าธุรกิจ เพื่อบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณค่าเสริมสร้างศักยภาพให้มีการเติบโตในระยะยาว

แม้ว่าการขับเคลื่อนบริษัท เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ความมุ่งมั่น และตระหนักถึงความสำคัญของกรอบความยั่งยืนทั้ง 3 ด้านที่กล่าวมานั้น บริษัทเชื่อว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม คำนึงผู้ได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า จะนำพาบริษัทมุ่งสู่ความยั่งยืนได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ ด้วยพลังความร่วมมือร่วมใจอันเป็นหนึ่งเดียวกันของผู้บริหารและพนักงานทุกคน สุดท้ายนี้ในนามของประธานคณะกรรมการความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน ตัวแทนคณะกรรมการ ESG ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่สนับสนุนต่อการดำเนินงาน และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตและบรรลุเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป